วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุยก่อนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3

ผ่านไปแล้ว สองสัปดาห์ กับ
1. บรรยากาศ ในห้องเรียน และ 2. บรรยากาศ การสอบ lab
(ครูสอนวิชานี้ วิชาเดียวนะครับ นักศึกษาจะไม่ได้ลงเรียนวิชาอื่นกับครู ...อย่าดีใจออกนอกหน้าแบบนั่นซิ)
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกคนก็เหน็ดเหนื่อยกับการเรียน ที่ปรับเปลี่ยนจาก นักเรียน ที่เรียนในขอบเขตจำกัดกว่า เป็น นักศึกษา ที่ออกไปค้นหา ศึกษา มากกว่ายิ่งเป็นวิชาทางบัญชี ที่ต้องเน้นปฏิบัติเป็นอย่างมาก
ความสำเร็จของนักศึกษา อยู่ที่ 3 องค์ความรู้หลักได้แก่
1. ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางบัญชี
2. ความรู้ ความเชี่ยวชาญทาง IT (Information technology)
3. ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางภาษา

สิ่งเหล่านี้ จะได้มาก็เหมือนกับ น้องเมย์ รัชนก ที่ต้องรัก ต้องฝึกฝน ฝีกซ้อม ครั้งแล้วครั้งเล่า จนชำนาญ
เหมือน การซื้อรถมอเตอร์ไซด์ หากไม่เก็บออม ก็ต้องเสียเงินซื้อของแพง และ แพงมาก ๆ ด้วย
พลังของการสะสม พลังของการเก็บออมนะครับ
ทั้ง 3 องค์ความรู้ข้างต้น ต้องเกิดจากการสะสม เก็บออม นะครับ

ไม่มีใครไม่เคยเป็น "หนูน้อย จำไม" ชอบถาม ถาม ถาม
แต่ทำไม เวลาผ่านไป จึงถามน้อยลง น้อยลง น้อยลง อยากรู้น้อยลง น้อยลง น้อยลง
กลับมา ถามแบบ เป็นเรื่องเป็นราว กันเถอะครับ
สิ่งที่ครูพยายามกระตุ้น จะไม่เกิดขึ้นเลย หากนักศึกษาไม่เป็นผู้ทำ ผู้ถาม

ครูขอสรุป และเพิ่มวิธีการหาคะแนนป้าย 4 ทาง ดังนี้
1. ตอบในห้อง 2. แสดงความคิดเห็นใน blog 3. ถามคำถามในห้อง 4. เมล์มาของานพิเศษ
ตอบในห้อง ตรงไปตรงมานะครับ ตอบได้ละ 1 ป้าย
แสดงความคิดเห็นใน blog แต่เดิมครูให้ครั้งละ 2 ป้าย ต่อนี้ไปขอลดลงเป็นตอบละ 1 ป้าย
และต้องเป็นความคิดเห็นนะครับ
แบบว่า
รับทราบครับ/คะ  ไม่ได้คะแนนป้ายนะครับ
และการแสดงความคิดเห็นใน blog อื่นนอกเหนือจาก blog วิชานี้ ก็ไม่ได้คะแนนป้ายครับ
ถือเป็นการแสดงความคิดเห็น เพราะ อยากจะแสดง
ถามในห้อง ครูให้คะแนนป้าย 3 คะแนนครับ (แน่นอนว่าต้องมีคำถามที่ครูตอบไม่ได้ รวมอยู่ด้วย)
ส่วนการเมล์มาของานพิเศษนั่น จะได้คะแนนป้ายครั้งละ 5 ป้ายครับ อยากรู้ว่าต้องทำยังไง ก็เมล์มาเลย

ทั้งนักศึกษาก็เหนื่อย
ครูก็เหนื่อย (ขอบ่นหน่อย) งาน blog แต่ละครั้งมีงานให้ครูตรวจ 2 section ก็ 100 งาน ครูต้องดู blog ของเรา 100 blog พิมพ์ตอบอีก 100 ที่
ตัวอย่าง วันอังคาร ก็เดินดูสอบ lab ตอนเช้า 1 ชั่วโมง เดินสอนอีก ชั่วโมงครึ่ง ตกบ่ายก็เดินสอนอีกชั่วโมงครั้ง และ ดูสอบ lab ดี 1 ชั่วโมง บางช่วงบางตอนจึงขออนุญาต นั่งบ้าง
แต่ไม่มีใคร เหนื่อยจนตาย มีแต่อยู่เฉย ๆ ก็เฉาตาย ซะมากกว่า
เหนื่อยนัก ก็อาบน้ำ ทานข้าว พักผ่อน แล้วหลับเต็มอิม ตื่นมาก็สดชื่น พร้อมเรียนรู้จากปัญหาต่าง ๆ

วัน ที่ นักศึกษาไปสมัครงาน เค้าจะดูเพียงใบแสดงผลการศึกษา เฉพาะระดับมหาวิทยาลัย เท่านั่นนะครับ มีเพียง 4 ปี ที่นี่ เท่านั่น ที่ใช้ติดสินชีวิตการทำงานทั้งชีวิต
ไม่ว่าสมัยอนุบาล คุณอาจประกวดหนูน้อยฟันแข็งแรงได้ที่ 1 หรือ เคยเดินถือป้ายโรงเรียนในงานกีฬาสี หรือเคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปทำโน้น ทำนี่
น้ำหนักการตัดสินใจเกือบทั้งหมดจะอยู่ที่ ระดับ มหาวิทยาลัย เท่านั่นครับ จับต้องได้ชัดเจน

เรา ขอย้ำว่า เรา มาร่วมกันเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ตัวเองให้เต็มศักยภาพ ถึงขีดสุดในแต่ละท่าน ก้นเถอะ งานนี้ทำกันคนเดียว ฝ่ายเดียว ไม่สำเร็จ
นี้เป็นการทำเพื่อตัวเราเอง
ท่านที่ชอบ ment อ่านแล้วดี อ่านแล้วเยี่ยม ก็เป็นจุดเริ่มที่ดี และต้องปฏิบัติตามนั่น มิเช่นนั่นผลลัพธ์ก็ไม่เกิด

ครับ

29 ความคิดเห็น:

  1. ช่วงแรกบรรยากาศในห้องเรียนจะเงียบ เกรง กลัว กังวลว่าถ้าสุ่มได้ชื่อตัวเองล่ะจะทำยังไงจะตอบได้ไหมหนูคนหนึ่งค่ะที่เกรงมากๆกลัวว่าจะตอบไม่ได้และก็ตอบไม่ได้จริงๆไม่ยกป้ายด้วยช่วงแรกๆจะไม่ค่อยมีคนยกป้ายแต่พอผ่านไปก็มีคนยกมากขึ้นจนแยกกันยกแย่งกันตอบคือบรรยากาศเปลี่ยนไปจากเดิมมากเลยคะ

    ตอบลบ
  2. ถึงแม้ว่าการเรียนวิชานี้กับครูจะผ่านไปเกือบสองสับดาห์แล้ว แต่หนูก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างค่ะ แต่จะตื่นเต้นน้อยกว่าครั้งแรกเพราะวันที่เข้าห้องเรียนครั้งแรกหนูจำได้ว่าหนูเลือกนั่งหลังสุดเลยค่ะเพราะหนูรู้สึกเกรงๆกลัวๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ แต่สัปดาห์หลังๆหนูเริ่มเปลี่ยนจากที่เคยนั่งหลังสุดมาเป็นตรงกลาง ตอนนี้กำลังรวบรวมความกล้าและยังหวังอยู่ค่ะว่าสัปดาห์ต่อๆไปหนูจะเลือกนั่งหน้าสุด^_^

    ตอบลบ
  3. ช่วงเเรกที่ได้เรียนรู้สึกว่า กลัว เเละเกรง ไม่กล้ายกป้ายกังวลกลัวจะตอบไม่ได้ แต่ก็ตอบไม่ได้จริงๆ ช่วงหลังๆๆมาก็เริ่มจะตอบได้กว่าครั้งที่เเล้วความตื่นเต้นจึงลดลง และกล้าที่จะยกป้ายแต่พอมานั่งข้างหลังสุดเริ่มจะตอบไม่ได้ เหมือนกับที่อาจารย์ว่าจริงๆๆค่ะ ต่อไปหนูจะนั่งแต่ข้างหน้าไม่นั่งข้างหลังอีกแล้วค่ะ

    ตอบลบ
  4. การเรียนกับครู ทีแรกคิดว่า น่ากลัวค่ะ 5555 แต่พอมาคิดดูให้ดีๆอีกทีการที่ครูสุ่มถาม มันเป็นการที่ทำให้เราจะต้องบังคับตัวเองให้กระตือรือล้นอยู่ตลอดเวลา ต้องพยายามหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ และฝึกให้เราคิดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และครูก็ถามคำถามซ้ำๆอยูทุกสัปดาห์ ทำให้จำได้ดีขึ้น ต่อไปจะพยายามทำความเข้าใจในบทเรียนก่อนที่จะเข้าไปเรียนเพื่อที่จะตอบคำถามและเรียนได้อย่างเข้าใจและดีกว่าเดิมค่ะ

    ตอบลบ
  5. ช่วงแรกรู้สึกกดดันมากเพราะไำม่ชินกับการสุ่มตอบคำถาม เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้รู้สึกว่าเราต้องเตรียมพร้อมเรียนและทบทวนความรู้ที่ได้มา เพื่อนมาตอบคำถามและนำความรู้ใหม่มาเพื่อทบทวนอีก

    ตอบลบ
  6. วรัณญีญกาญน์ ดุจฤดี ธณิวัลย์ ชวัลรัตน์ ชนมน
    ครูอ่านความคิดเห็น แล้ว ลงคะแนนให้แล้วครับ
    ครูคิดว่า นักศึกษาคงต้องเตรียมตัวก่อนเข้าเรียน ขณะเรียน และหลังเรียน กันอย่างเต็มที่ กับทุกวิชาครับ
    นี้คือ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดครับ
    ครู คงเห็นการเปลี่ยนแปลงนะครับ มาร่วมกันสร้างบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนานกันนะ

    ตอบลบ
  7. หลายท่านเมล์มาของานพิเศษ ครูให้ข้อมูลไม่ครบว่า งานพิเศษจะสำหรับท่านที่คะแนนป้ายน้อยมาก ๆ นะครับ ขอสงวนสิทธิ์หน่อยหนึ่ง

    ตอบลบ
  8. ผมชอบวิชาอาจารย์มากครับ เพราะทำให้เราต้องฝึกฝนตนเอง ไปหาความรู้ล่วงหน้ามาเพื่อตอบคำถามภายในห้อง ทำให้เราเกิดความขยันที่จะขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม และได้ฝึกคิดวิเคราะห์มากขึ้น ไม่เหมือนวิชาอื่นที่ต้องนั่งฟังและคอยจด

    ตอบลบ
  9. ชั่วโมงแรกที่เข้าเรียนวิชานี้ รู้สึกกลัวและกดดันมาก กลัวการชุ่มชื่อแล้วเจอเลขที่ตัวเอง ช่วงแรกๆจะสั่นๆ เพราะนั่งข้างหน้าด้วย 555 กลัวว่าครูจะถามแล้วตอบไม่ได้ กลัวอายเพื่อนในห้อง แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มปรับตัว และคิดว่าการชุ่มชื่อมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเราอ่านหนังสือและตัวมาดี ทบทวนคำถามที่ครูถามชั่วโมงก่อนๆ บางทีอยากให้ชุ่มเจอชื่อตัวเองบ่อยๆด้วยช้ำ 555

    ตอบลบ
  10. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  11. ชั่วโมงแรกที่เข้าเรียน รู้สึกเกรงมากค่ะ กลัวจะได้ตอบคนถามมือสันตลอด 555 แต่พอได้เรียนบ่อยๆครั้งก็เกิดชอบวิชานี้ขึ้นมา เพราะทำให้ดิฉันมีความกล้าแสดงออก กล้าที่ตอบ ไม่กลัวเหมือนวันแรกที่ได้เรียน Happy very good เลยค่ะ ตั้งแต่เรียนหนังสือมาไม่เคยได้เจอการเรียนการสอนแบบนี้เลย แจ่มมากๆๆ555 *อาจารย์ช่วยหันมาดูป้ายดิฉันบ่อยๆนะ่ค่ะ

    ตอบลบ
  12. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  13. วิชานี้เป็นวิชาที่หนูเข้าเรียนทีไรรู้สึกว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ เพราะเป็นวิชาที่ต้องเเข่งขันแย่งชิงกันตอบ เเต่หนูตอบไม่ทันเพื่อนซักที หนูชอบเทคนิคการสอนของอาจารย์มากเลยค่ะ เพราะตอนหนูเรียนมัธยมมาหนูเป็นที่คนที่ไม่ชอบมากกับการตอบคำถาม ตั้งเเต่มาเรียนกับอาจราย์หนูรู้สึกว่า ความคิดหนูเปลี่ยนไปเลยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. งาน 4 ยังไม่ทำอีกเหรอ
      การสื่อสาร เป็นรากฐานของความสำเร็จในชีวิต ชีวิตเลยนะ ทั้งชีวิตงาน ชีวิตครอบครัว

      ลบ
  14. เข้าเรียนคาบแรกหนูยังมึนๆอยู่เลยแล้วในคาบนั่นหนูก็ไม่ได้ป้ายเลยสักป้าย คาบที่สองหนูเลยต้องสปีดเพราะเพื่อนนำไปหลายป้ายแล้วในชั่วโมงที่สองนี้ทำให้หนูมีความสุขกับการเรียนมากเลยค่ะและอยากเรียนวิชานี้มาขึ้นหลังจากมีอคติกับวิชานี้มาตลอด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความสม่ำเสมอ นะครับ
      เต็มที่กับทุก ๆ วิชาเลย

      ลบ
  15. ตอนแรกที่เข้าเรียนวิชานี้กดดันมากเพราะเราจะต้องแข่งขันกับทุกคนในห้องค่ะคาบแรกก็ยกได้แค่ป้ายเดียวแต่หลังๆมาก่อนเข้าห้องเรียนก็จะนำที่เราจำบันทึกคราวที่แล้วกลับมาอ่านทบทวนก่อนค่ะทำให้สามารถตอบคำถามได้มากขึ้น
    วชานี้ทำให้หนูมีความกล้าที่จะตอบมากขึ้นค่ะตอนนี้รู้สึกชอบวิชานี้มากเลยตั้งแต่เรียนวิชานี้ทำให้เวลาไปเรียนวิชาอื่นๆก็รู้สึกกล้าที่จะตอบมากขึ้นต้องขอบคุณอาจารย์มากๆๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  16. วันแรกที่เข้าเรียน ดิฉันรู้สึกกดดันกับการเรียน การสอนของวิชานี้มากค่ะ ตั้งแต่เกิดมาดิฉันไม่เคยได้สัมผัสการเรียนการสอนแบบนี้ ดิฉันรู้สึกชอบในวิธีการสอนของอาจารย์มากค่ะ ที่สามารถทำให้เรารู้จักการแข่งขัน และการกล้าแสดงออก อีกอย่างเป็นการทบทวนความรู้ที่เรียนมา แล้วเพิ่มความรู้ใหม่เข้าไปอีก ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปเรียนหนังสือ ไปทำงาน ขับรถบนท้องถนน
      ที่ไหน ๆ ก็กดดัน
      ถ้าไม่กดดัน ก็แปลกละนะ
      เต็มที่กับทุก ๆ วิชาครับ

      ลบ
  17. วิธีการเรียนการสอนของคุณครูนั้น แปลกมากสำหรับหนู ตั้งแต่หนูเข้าเรียน ตอนอายุ 3 ขวบ จนจบมัธยมปลาย หนูไม่เคยได้ทำแบบนี้ ยกป้ายตอบตอนแรกๆหนูไม่อยากเข้าเรียนเลยค้ะ เป็นอะไรที่กดดันมากเลย กลัวตอบไม่ไดเแล้วอายเพื่อนค่ะ แต่ตอนนี้ก้เริ่มปรับตัวได้แล้วค่ะ อยากแรกเลยก็ศึกษาเพิ่มเติมอะไรบ้าง ตอนถามจะได้ตอบได้ค่ะ ตอนนี้การเรียนแบบนี้สำหรับหนูมันสนุกดีนะคะ จากที่เคยไม่กล้าก็กล้าขึ้น และหนูก็มีความสุขที่ได้เรียน หนูได้รับอะไรมากมายจากคุณครูค่ะ หลายสิ่งหนูไม่เคยรู้เลย แต่ก็ได้รู้จากคุณครูค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มีอะไรจะติก็ติได้เลยนะ ตรงไหน เรื่องใดที่ควรปรับปรุง
      ครูอยากเห็นงานบทความของเราแล้ว เร่งมือด่วน

      ลบ
  18. ชอบวิธีการเรียนแบบนี้มากครับ แล้วเป็นแบบถามตอบ เหมือนการที่เราถกเถียงปัญหากันสักเรื่อง เหมือนการเรียนเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมากกว่า เลยต้องกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่ผมยังงงๆอยู่ มุมมองของผมพุทธศาสนาคือประวัติศาสตร์ แต่ IT คืออนาคต แต่อาจารย์สามารถเอามาสอดแทรก ผสมผสานกับการเรียนการสอน มันแปลกหูแปลกตา แต่ก็น่าสนใจดีครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ment ว่าชอบ แต่งาน blog จะไม่คืบหน้าเลยนะ ยังไง ๆ อยู่

      ลบ
  19. ตอนเข้าเรียนคาบแรกหนูคิดว่าวิชานี้คงจะเป็นวิชาที่น่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ แต่พออาจารย์เริ่มถามแล้วให้ตอบตามลำดับเลขที่ ที่อาจารย์สุ่มมาก็เริ่มเกรงๆ กลัวตอบคำถามที่อาจารย์จะถามไม่ได้ กลัวเพื่อนๆ จะหาว่าตอบไม่ได้แล้วดันตอบออกไปทำไม แต่พออาจารย์บอกว่าการตอบไม่ว่าจะถูกหรือผิด มันก็คือการแสดงความคิดเห็นที่ดีอย่างหนึ่ง คือการได้แสดงความคิดที่เราคิดและอยากจะตอบ และเป็นการทบทวนความรู้ของตัวเองว่ามีมากน้อยเพียงใด และแถมยังได้คะแนนยกป้ายอีกด้วย ถือว่าดีเลยทีเดียวค่ะ ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กลัว เป็น "ความรู้สึก"
      แต่ถ้าเป็น "ความรู้" ก็จะทราบว่า รูปแบบการสอนจะช่วยกระตุ้นให้เราตั้งใจเรียน ใส่ใจ ทบทวนเนื้อหา เตรียมตัวก่อนเข้าเรียน

      ลบ