เห็นชีวิต on-line ของท่านแล้ว ก็ ไม่ค่อยสบายใจ ตามประสา "คนสูงวัย" พอดีเพื่อน share กลอนนี้มา
ก็เลยนำมาฝาก
Facebook : โลกเสมือน
จากคอลัมน์บทกวี (ลูกแม่ยอง คลองแดน) หนังสือขวัญเรือนฉบับที่ 998 ปักษ์หลังมิถุนายน 2556
หลาย ๆ ท่าน ทราบหรือไม่ว่า
ตนเอง กำลัง หมกหม่น
หลงทางอยู่ใน โลกเสมือน
โลกจริง โหดร้าย ไม่สมหวัง อยู่ข้างใน face ดีกว่า สุขกว่า
หนูเห็นด้วยกับบทกลอนข้างต้นค่ะ ว่า Facebook เปรียบเสมือนดาบสองคมที่มีทั้งคุณและโทษ ณ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในวัยเรียน หากเรารู้จักใช้มันให้เกิดประโยชน์ มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่สามารถจุดประกายด้านการศึกษาได้อย่างกว้างขวาง ทำให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงกันข้าม หากเราใช้ไม่เป็น หรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ ย่อมส่งผลกระทบต่อการเรียนและอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ
ตอบลบใช้คำสวย "จุดประกาย"
ลบบทกลอนนี้มีประโยชน์มากครับ เตือนสติผมได้เป็นอย่างดี เราไม่ควรอยู่กับโลกเสมือนออนไลน์มากเกินไป มานมีทั้งสาระ ไร้สาระ เมื่อก่อนผมติดเฟซบุ้คมาก แต่ตอนนี้เฉยๆ ละครับ หันมาอ่านเนื้อหาวิชา เอซี 109 แทนดีกว่า ^ ^
ตอบลบครูว่านะ สำหรับเทคโนโลยีบนคอมฯ นะ ใคร ๆ ก็เคยติดกันมาก่อน ติดเกมส์ ติด facebook แต่ที่สำคัญคือ รู้ว่าติดแล้ว ก็ต้องออกมา ให้ได้นะ เหมาะกับคำว่า "เฉย ๆ "
ลบหนูเห็นด้วยกับบทกลอนนี้นะคะอาจารย์ เพราะการที่เราติดอยู่ในโลกเสมือนมากๆนั้น อาจจะทำให้เราลืมอะไรไปหลายอย่าง และอย่างคนที่อยู่รอบข้างเรา เขาก็อาจจะหงุดหงิดได้ถ้าเราเอาแต่ใช้เวลาอยู่กับโลกเสมือนมากเกินไป อาจจะทำให้เราลืมเวลา ลืมว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ลืมไปหมดทุกอย่าง จำได้อยู่อย่างเเดียว นั่นก็คงจะเป็นโลกเสมือนค่ะ
ตอบลบใจหนึ่งหนูก็อยากให้มีโลกเสมือนนะคะ เพราะสามารถติดต่อกันได้ง่าย ไม่ต้องเปลืองตังโทรคุยกัน ไม่ต้องออกไปหาเพื่อนดึกๆดื่นๆ
แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อย่างให้มีโลกเสมือน เพราะมันทำให้เราหมกมุ่นอยู่เรื่องไร้สาระ แค่คุยกันผ่านโลกออนไลน์ไปวันๆ ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยค่ะ
คนรอบข้างหงุดหงิด จำได้อย่างเดียวว่าต้องเป็น face book
ลบทำอย่างไรจะเจอ สมดุล
เห็นด้วยกับบทกลอนที่ยกกมามากๆค่ะ เพราะชีวิตในปัจจุบันของฉันก็คล้ายๆแบบนี้ ทุกๆวันตั้งแต่ลืมตาตื่น จนกระทั้งก่อนนอนจะต้องได้เปิดfacebookดู และเวลาว่างก็จะต้องเปิดดูจนมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันกันไปเลยทีเดียว
ตอบลบแต่ทุกวันนี้ฉันก็กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการเปลี่ยนจากดูfacebookเป็นอ่านหนังสือแทนค่ะ^________^
เป็นกิจวัตร
ลบขอเพียงรู้ว่า ติด face book แล้ว บอกแจ้งไปยังจิตใจ เดี๋ยวเค้าก็จะพยายามถอนตัวออกมาจนได้ละ
เป็นการแต่งกลอนที่นำเรื่องปัจจุบันมาเป็นหัวข้อดูน่าสนใจและมีประโยชน์ และทำให้น่าอ่านขึ้นค่ะ
ตอบลบและสะท้อนปัญหาการติดfacebookในปัจจุบันได้ดี
ชนมน งาน blog ยังไม่ได้ใส่คำอธิบาย blog นะครับ
ลบเห็นด้วยกับกลอนนี้มาากๆเลยค่ะเพราะคนไทยในปัจจุบันตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่มีแต่คนที่ติดเฟสบุ๊คกันงอมแงมเห็นใครๆก็เอาแต่ก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนบ้างก็หัวเราะคนเดียว ยิ้มคนเดียวเห็นแล้วมันน่าแปลจริงๆค่ะ
ตอบลบเห็นด้วยกับบทความนี้น่ะเพราะตอนนี้facebookเป็นที่นิยมของคนจำนวนมากถ้าเรารู้จักใช้ในทางที่ดีก็น่าจะดีกว่านี้เราต้องใช้เทคโนโลยีในทางที่ถูกต้องต้องอยู่กับโลกความจริงให้มาก
ตอบลบหนูเห็นด้วยกับบทกลอนนี้ค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้สังคมเราเริ่มจมปลักกับโลก facebook กันมาก แต่ล่ะคนก็ต้องการสื่อสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา แต่บางคนก็ทำเกินหน้าเกินตา จนงามหน้า ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย
ตอบลบเห็นด้วยกับบทกลอนนะค่ะ แต่ว่ายุคนี้เป็นยุคสมัยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากสิ่งเหล่านี้ได้ ยกตัวอย่างกับตัวเอง facebook นอกจากจะมีไว้เพื่อติดตามข่าวสารจากเพื่อนๆแล้วยังใช้ในการติดต่อเรื่องงาน ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งบางครั้งเราอาจไม่มีเวลาติดตามด้วยตัวเอง ตัวดิฉันเองคิดว่า ถ้าจะบอกว่า facebook ไม่ดีในแง่ต่างๆนาๆ หรือดีอย่างโน้นอย่างนี้ มันต้องขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแต่ละบุคคลที่จะสื่อออกมาในรูปแบบไหนมากกว่าค่ะ
ตอบลบเห็นด้วยกับบทกลอนเพราะ facebook มีทั้งด้านดีและด้านลบหากตัวเราใช้ facebook ในด้านดีก็จะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเรา แต่หากใช้ facebook ในด้านลบ ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเราเช่นกัน จากบทกลอนนี้ทำให้รู้ว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากเทคโนโลยีใหม่ๆได้ แต่หากเราเลือกที่จะรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็จะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเรามาก และการเล่น facebook ในแต่ละวันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ขอให้บริหารเวลาในการเล่นไม่ให้มากจนเกินไป
ตอบลบทยิตา ทุกเพศทุกวัยเลย
ตอบลบวลัยรัตน์ งานที่ส่งมามีต้องแก้นะครับ ตรวจดูหน่อย
โจเสฟีน ตรวจแล้วครับ
ณิชชา ใช้สื่อสารภายในหน่วยงานต้นสังกัดด้วยเหรอ
ภาณุพงศ์ เข้าเรียนสายนะเรา