วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คิดสั้น คิดยาว กับชีวิตทั้งชีวิต

เห็นชื่อบทความ ก็คงถอนหายใจ แล้วคิดต่อไปว่า ดราม่า อีกแล้ว
อันที่จริง ไม่ใช่เรื่องที่ถนัด แต่จำเป็น ต้องเขียน
อันที่จริง ถ้าไม่เขียนเรื่องแบบนี้ได้ ก็ดี จะได้เขียนเรื่องบวก ๆ ได้อีกเยอะ

คิดสั้น ๆ (ก่อน)
เรียนอย่างไรให้จบ                  ตอบ     ทุกวิชาต้องได้เกรด C
                                                       จะจบที่เกรด สองจุดศูนย์พอดี
                                                        ได้สิ่งที่ต้องการ

พอเรียนเข้าจริง ๆ จะมีบางวิชา หรือ หลาย ๆ วิชา ที่เกรด C เป็นเรื่องยากที่จะทำได้

สมมุติได้เกรด D มา 1 วิชา
                                         ก็ต้องหาเกรดใน 1 วิชา ให้เป็น B
       เพื่อดึงเกรด D ให้กลับไปเฉลี่ยที่เกรด C

พอเรียนไปหลาย ๆ เทอม ผ่านวิชารหัส 100 และ 200 ไปหมดแล้ว
           พวกวิชารหัส 300 และ 400 ก็แทบจะไม่มีตัวไหนเลยที่พอจะทำเกรด B ได้

สมมุติได้เกรด F มา 1 วิชา
                                         ก็ต้องหาเกรดใน 1 วิชา ให้เป็น A  เพื่อเฉลี่ยกับ F แล้วกลายเป็น C

ต้องเอา A เชียวเหรอ  มันเป็นไปไม่ได้หรอก สำหรับฉัน
งั้นก็ต้องหา B หรือ B+ หลาย ๆ วิชาหน่อยนะ เพื่อมาดึง F ให้เกรดเฉลี่ยขึ้นไปที่ C

แล้วฉันจะไปหาวิชาไหนมาเรียนอีกละ ถึงจะได้เกรด B และ B+ (คนอย่างฉันเนี่ยนะ)
ก็ต้องกลับไป regrade วิชารหัส 100 กับ 200 ต้องบากหน้าไปเรียนกับน้อง ๆ อีก


คิดยาว (ไหม)
แต่ละวิชาที่ลงเรียน ต้องทำเกรดให้ดีที่สุด เพราะ ไม่รู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร อาจดี หรือ ไม่ดีก็ได้ สะสมเกรดดีไว้ก่อน

คิดยาว ออกไปอีก
จบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.0 จะไปทำงานอะไรได้
ในโลกใบนี้ โลกที่ท่านจะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพ มีบ้าน มีรถ มีครอบครัว
"มันไม่สามารถสร้างได้ ด้วยเกรด 2.0 หรอก"

ครูไม่ต้อง "ท้า"   และ นักศึกษา ท่านก็ไม่ต้อง "พิสูจน์" ประโยคข้างต้น

ชีวิตไม่ใช่ การพนัน ไม่ต้องมาเดิมพัน ในเรื่องแบบนี้

เกรดเท่าไหร่ จึงจะ "อยู่รอด" และ "เจริญเติบโต"
สำหรับ ม. เอกชน แล้ว ต้องยอมรับว่า "ศักดิ์" และ "ศรี"  นั่น เป็นรอง ม. ของรัฐ
ถ้าเด็กที่เรียน ม. รัฐ  จบที่เกรด 2.75 แล้วหางานทำได้
เรา ก็ต้องจบ ที่เกรด สูงกว่า  เพื่อเอาไป ตัดถอน กับการ "ดูถูก" ของสังคม

ดังนั่น เกรด 3  น่าจะเป็นเกรด  สำหรับ "อยู่รอด" และ "เจริญเติบโต"

เกรดที่ต่ำกว่านั่น
ก็ พอเพียง แค่การ ดิ้นรนเพื่อ "อยู่รอด" เท่านั่น และต้องดิ้นรนไปตลอด เพราะปัญหาที่ตามมา มันจะทบทวีคูณ ยิ่งดิ้น ยิ่งรัด ยิ่งสู้ ยิ่ง อ่อนล้า


ชีวิตของท่าน นักศึกษา ชั้นปีที่ 1 เทอม 1 ที่ตอนนี้ เกรดผลการเรียน ยังไม่มีค่าอักษรใด ๆ เลย แม้แต่ตัวเดียว
ทุกอย่าง กำลัง "เริ่มต้น"
แต่ ครู ดู ๆ แล้ว  เป็นการเริ่มต้นที่ "ไม่ใส่ใจ"
"ไม่กระตือรือล้น"
"ไม่ขวนขวาย"
"ไม่อยากรู้"
"ไม่อยากเห็น"

หลายท่านติดอยู่กับคำว่า "ไม่"
"ไม่ทราบครับ"
"ไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ"
"ไม่รู้ซิครับ"
"ไม่เป็นครับ"
"ไม่ได้ทำครับ"
"ไม่เคยเห็นเลยครับ"

คำว่า "ไม่" ที่ใช้มานาน แสน นาน
มันทำให้เรา "ปลอดภัย"    ไม่ต้องทำอะไร   ไม่ต้องคิดอะไร   ไม่    ไม่    ไม่

ได้เวลา ใส่คำว่า "ได้ครับ/ได้คะ"    "หนูคิดว่า /  ผมคิดว่า"     "น่าจะเป็นแบบนี้/น่าจะเป็นแบบนั่น"
"ผมว่า/หนูว่า ที่พูดมาก็เห็นด้วยนะ แต่หนูคิดว่า/ผมคิดว่า ถ้ามันเป็นแบบนี้ .... น่าจะดีขึ้นไปอีก"


"คิด"  "เรียนรู้"   "ลงมือทำ"

แทนการมั่วแต่อ้างว่า  "ไม่"   ๆ     ๆ

ท่านเรียนหนังสือ  ท่านก็ต้องอ่านหนังสือ
ท่านอ่านหนังสือ ท่านก็ต้องเข้าใจหนังสือ   ตอบข้อเท็จจริงได้ อธิบายความรู้ได้
อธิบายความคิดได้

ท่านจด lecture ก็ต้องอ่าน lecture
ตอบความจริงที่จดมาได้  อธิบายได้

แต่ท่าน "ทำไม่ได้"   และ "ไม่ได้ทำ"

แล้วประโยชน์มันอยู่ตรงไหน

บางท่านนอกจากคำว่า "ไม่"   ก็หลบ   ก็หนี
เข้าเรียนสาย   ขาดเรียนสารพัดขาด  งาน blog ไม่ทำ   ไม่เกิดการเรียนรู้

ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

ต้องกลับมาแก้ไขอีกเมื่อไหร่

แล้ว มันจะสายไปไหม

ทำไม ชีวิตของท่านเอง ท่านถึงไม่รัก  ถึงไม่ใส่ใจ   ถึงไม่ให้สิ่งที่ดีที่สุด กับมัน

ท่านเพียงหลงไปกับความสุขจอมปลอม กับ เสื้อ ผ้า หน้า ผม
กับเวลาสังสรรค์ กับเพื่อน
คนเหล่านั่น ที่นั่งรอบตัวท่านในช่วงเวลานั่น ท่านควรเรียกว่า "เพื่อน"  ได้หรือเปล่า
ท่านไม่เข้าเรียน   คนที่เตือนท่าน ให้สติท่าน   ต่างหากละ คือ "เพื่อน"
ท่านไม่ทำการบ้าน          คนที่เตือนท่าน ให้สติท่าน   ต่างหากละ คือ "เพื่อน"
ท่านหลับในห้องเรียน   คนที่เตือนท่าน ให้สติท่าน   ต่างหากละ คือ "เพื่อน"

คนที่ชวนท่านอ่านหนังสือ  ทำการบ้าน  ฝึกถาม/ตอบ ติวเตรียมสอบ
คนเหล่านี้ต่างหากละ คือ เพื่อน

คนที่ช่วยทำให้ชีวิตท่าน "เต็ม" เป็น สัตว์ประเสริฐ เหนือ สัตว์เดรัฐฉาน ที่ดำรงอยู่ด้วยความอยากตามสัญชาตญาณ


คิดยาวที่สุด
นี้ คือ ชีวิตของเรา คนที่ทำอะไรให้กับเรา ให้ชีวิตเราสุขสบาย กำลังเหลือน้อยลง ๆ ๆ และวันหนึ่งจะเหลือเพียงเรา ที่เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถ ที่คอยดูแลตัวเราเอง

และต่อ ๆ ไปเราก็ต้องทำหน้าที่สำคัญในการดูแลคนเหล่านั่นตอบแทน และดูแลคนใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น

ใช้ชีวิตด้วยความรัก อย่าใช้ชีวิตเพื่อความทุกข์
รักในการเรียน  รักในสิ่งที่ทำ
ทุ่มเททุก อะตอมของความสามารถ ลงไปในสิ่งที่รัก

แม้ครูจะปิดท้ายบทความนี้ ด้วยรายชื่อของนักศึกษาที่ขาดเรียน ไม่ส่งงาน
นักศึกษาที่เข้าเรียนสาย
นั่งหลับ
ไม่สนใจตอบคำถาม

มันไม่มีประโยชน์   ถ้าท่านจะรู้ ท่านต้องรู้ด้วยตัวของท่านเอง
*****************
*****************



Photo: Improve your English on FB: www.fb.com/EnglishIF



*********

*********

4 ความคิดเห็น:

  1. เทศนาซะยาวเลยนะคะอาจารย์ แต่เมื่ออ่านแล้วพอลองย้อนกลับไปมองตัวเองก็พบว่ายังมีข้อบกพร่องที่ควรปรับปรุงอีกหลายด้านเลยค่ะ เช่น ความกระตือรือร้นในการขวนขวายหาความรู้ การขาดความกล้าแสดงออก และที่แก้ไม่ได้เลยก็คือ หนูเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงค่ะ ชอบอยู่คนเดียว เวลามีปัญหาอะไรบางครั้งจึงไม่รู้จะปรึกษาใคร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. บ่น ๆ ๆ
      การเป็นคนมีโลกส่วนตัว ก็สะท้อนว่า ชอบคิด
      ก็เป็นจุดเริ่มที่ดี
      ต่อไป ก็ต้องเอาที่คิด มาลงมือทำ
      จะได้ปรับแต่งให้ดีขึ้นต่อ ๆ ไป

      ลบ
  2. ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่กเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเตือนสดิหนูได้หลายเรื่องเลยค่ะ

    ตอบลบ
  3. จุดหมายของผมตอนนี้คือเกียรตินิยมครับ อย่างที่อาจารย์บอก ตอนนี้เราเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ดังนั้น เราต้องทำเกรดให้ดีที่สุดเข้าไว้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับจากบริษัทต่างๆ ซึ่งการจะทำเกรดให้สุงได้ เราต้องตั้งใจเรียน หมั่นอ่านหนังสือ ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้เวลาสอบกลางภาคมากแล้ว เราควรรีบอ่านหนังสือ เลิกเที่ยว เลิกทำตัวไม่ดี เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าครับ

    ตอบลบ