วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

link นี้ 2 ป้ายครับ

สวัสดีวันพุธครับ
มีคะแนนป้าย 2 ป้ายมานำเสนอ
ต้องการ link ไปยังบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ
* อันตรายจากของที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน อาจเป็นของที่ใช้ภายนอก หรือ บริโภคเข้าไปในร่างกาย

ต้องเป็นของใช้ ของบริโภค หรือของอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเท่านั่น

ใครมีบทความ หรือ หาบทความเด็ด ๆ ในเรื่องเหล่านี้ได้ ก็ ment ตอบมาพร้อมกับ link ไปยังบทความนั่น

31 ความคิดเห็น:

  1. อันตรายจากเครื่องสำอาง

    http://beautylunla.igetweb.com/index.php?mo=3&art=251063

    สำหรับอันตรายเนื่องจากในเครื่องสำอางมีสารเคมีที่เป็นสารต้องห้ามเป็นส่วน ผสม ซึ่งอันตรายที่ได้รับส่วนใหญ่จะเกิดกับผิวหนังมากกว่าระบบอื่น เช่นเครื่องสำอางประเภทน้ำยาสเปรย์ผมที่มีส่วนผสมของสาร ทีวีพี ครีมกันแดด แก้ฝ้า อาจทำให้ผิวหนังแพ้ หรืออักเสบที่บริเวณใบหน้า หน้าผาก ใบหู คอ และยังทำให้ผมแข็งกรอบ น้ำยาสเปรย์บางอย่างมีส่วนผสมของเชลแล็กที่ละลายด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ผลิตบางรายใช้

    เมทิลแอลกอฮอล์ละลาย เนื่องจากราคาถูก สารนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว ถ้าได้รับสารนี้เป็นประจำยังจะก่อให้เกิดนัยน์ตาฝ้ามัว อักเสบขั้นรุนแรงจนตาอาจบอดได้

    ตอบลบ
  2. อันตรายจากการกินขนมกรุบกรอบ
    http://health.kapook.com/view17430.html

    อาหารจำพวกขนมกรุบกรอบกว่า 90% มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก และเต็มไปด้วยสารอาหารที่เกินพอดี เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อทานต่อเนื่องจะทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง และส่วนประกอบหลักของขนมกรุบกรอบประเภทแป้ง ทำให้เด็กได้รับคาร์โบไฮเดรตสูง กลายเป็นเด็กอ้วน ฟันผุ อนาคตเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ

    ตอบลบ
  3. อันตรายจากไมโครเวฟ
    http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/6/microwave/

    งานวิจัยชิ้นใหญ่ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์การวิจัยเกี่ยวกับเตาไมโครเวฟ คืองานวิจัยของรัสเซียที่ค้นพบ คาร์ซิโนเจน หรือสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ นม และเมล็ดธัญพืช ที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ ส่วนวิตามิน บี ซี อี ตลอดจนแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ก็ลดลงด้วย เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากโมเลกุลในอาหารจะสั่นสะเทือนด้วยความเร็วหลายพันล้านรอบต่อนาทีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขั้นบวกและลบ โมเลกุลบางส่วนเสียหาย บางส่วนผิดรูปร่าง บางส่วนแตกกระจายเป็นโมเลกุลหรือสารประกอบใหม่ที่ร่างกายเราไม่เคยรู้จัก รัสเซียประกาศห้ามใช้เตาไมโครเวฟนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา

    ตอบลบ
  4. อันตรายจากน้ำอัดลม
    http://www.vcharkarn.com/vcafe/99647
    จากปัญหาที่พบในชีวิตประจำวันจะเห็นได้ว่าเด็กส่วนใหญ่มักชอบกินน้ำอัดลมในปริมาณที่มากโดยไม่รู้ว่าน้ำอัดลมมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง มีกรดสูงมาก และมีสารปรุงแต่งจำพวกวัตถุกันเสียจะทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของร่างกายต่ำลง การย่อยอาหารทำได้ยากขึ้นและย่อยอาหารได้น้อยลง ในความเป็นจริงแล้ว อาหารในร่างกายจะเสีย และส่งแก๊สซึ่งมีกลิ่นเหม็นออกมา อาหารจะเน่าเปื่อย และทำให้เกิดสารพิษซึ่งจะถูกดูดซึมในลำไส้ และจะไหลเวียนในระบบเลือดไปทั่วร่างกายสารพิษซึ่งแพร่ออกไปทั่วร่างกายนี้จะส่งผลให้เชื้อโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดีขึ้น อีกอย่างการดื่มน้ำอัดลมในปริมาณที่มากจะทำให้ฟันผุ กระดุกพรุน
    ดังนั้นควรหันมาดื่มน้ำผลไม้ดีกว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพเยอะ มีทั้งวิตามินในการสร้างส่วนตางๆของร่างกาย

    ตอบลบ
  5. อันตรายจากแสงแดด
    http://www.eyebankthai.com/index.asp?contentID=10000004&title=%CD%D1%B9%B5%C3%D2%C2%A8%D2%A1%E1%CA%A7%E1%B4%B4+&getarticle=77&keyword=&catid=5
    เราไม่อาจปฎิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้เลยว่าทุกวันนี้เราจะไม่พบเจอกับแสงแดด แสงแดดมีทั้งคุณประโยชน์แต่แผงไปด้วยอันตรายรอบด้าน ถ้าเรารู้จักการเรียนรู้และป้องกัน ก็จะทำให้สามารถลดอันตรายจากแสงแดดได้

    ตอบลบ
  6. อันตรายจากมาม่า
    http://variety.teenee.com/foodforbrain/1105.htmlจากปัญหาที่พบในปัจจุบ้นมักชอบกินมาม่าเเทนข้าวยังเป็นอาหารแก้ขัดในยามขัดสน และเป็นอาหารสุดนิยมที่คนไทยซื้อเพื่อบริโภค หากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป จะมีผลต่อระบบการทำงานของไต ไตต้องทำงานหนักเพื่อที่จะขับโซเดียมส่วนเกินออกไป หรือคนที่เป็นโรคไตอยู่แล้ว ก็จะเกิดปัญหาการคั่งค้างของโซเดียมอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง ทางที่ดีไม่ควรกินบะหมี่สำเร็จรูปเกินวันละ 1 ซอง และควรต้มให้สุก อย่ารับประทานแบบเปล่า เพราะบะหมี่จะไปพองตัวในกระเพาะทำให้เกิดอาการจุกแน่นได้

    ตอบลบ
  7. น้ำมันทอดซ้ำ อันตรายที่คาดไม่ถึง

    URL : http://www.cook.co.th/th/tips/did-you-know/repeat-oil

    ตอบลบ
  8. อัตรายจากอาหารข้างถนน
    URL :: http://www.tungsong.com/food_footbath/
    คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีชีวิตอยู่กับความเร่งรีบ และใช้ชีวิตแข่งกับเวลา ในบางครั้งเราจึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารข้างทางเพราะมีความสะดวก รวดเร็ว และหาได้ง่ายตามที่ต่างๆ

    ตอบลบ
  9. อันตรายจากผงซักฟอก
    http://www.bangkokhealth.com/index.php/health/health-system/skin/1213-%E0%B8%9C%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%81.html

    เป็นภัยที่คนส่วนใหญ่อาจรู้แต่ว่าผงซักฟอกได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมองข้ามภัยอันตรายนี้ไป
    ผงซักฟอกมีสารที่เป็นผลกระทบทั้งสิ่งแวดล้อม แม่น้ำ และตัวของผู้ใช้เองได้แต่เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี้ยงการใช้ผงซักฟอกได้

    ตอบลบ
  10. อันตรายจากน้ำยาล้างเล็บ

    http://www.thaigoodview.com/node/117582

    * มีสารพิษ 3 ชนิดปะปนอยู่ ในยาทาเล็บทั่วไป คือ ไดบิวทิล พทาเลต สารประกอบไทลูอิน และฟอร์มาลดีไฮด์
    * ไดบิวทิล พทาเลต เป็นปัจจัยเพิ่มอัตราการเป็นหมันในหญิงและชาย ในระยะยาวจะส่งผลต่อไตและตับ
    * ไทลูอิน ไม่เพียงรบกวนการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ แต่ยังสร้างความระคายเคืองผิวหนังและส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เหนื่อย สับสน และสูญเสียความทรงจำ หากสูดดมมากๆ จะมีอาการหน้ามืด ตาลาย ปวดศีรษะ
    * ฟอร์มาลดีไฮด์ หากสัมผัสกับผิวหนังจะปรากฏเป็นผื่นแพ้และคัน หากสูดดมเข้าไปในระยะสั้นจะสร้างความระคายเคืองในลำคอและไอ ในระยะยาวทำให้เป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ
    * สีในยา ทาเล็บส่วนใหญ่เป็นสีสังเคราะห์ ส่วนยาทาเล็บที่ผลิตด้วยสีธรรมชาติก็จำเป็นต้องเติมแร่ไมกาเพื่อเพิ่มประกาย แวววาว สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ การทำเหมืองไมกามีการใช้แรงงานเด็กและผู้หญิง
    * นอกจาก ยาทาเล็บแล้ว น้ำยาล้างเล็บก็อันตรายไม่เบา ยิ่งทาเล็บติดทนนานเพียงใด ยิ่งต้องใช้น้ำยาที่ผสมด้วยตัวทำละลายเข้มข้นสูง จึงมีฤทธิ์มากพอจะล้างสีออกจากเล็บได้ง่ายดาย
    * น้ำยา ล้างเล็บส่วนใหญ่มีส่วนผสมสารเคมี 2 ชนิด คือ อะซิโตน และเอทิลอะซิเตต ซึ่งต่างก็สร้างความระคายเคืองแก่ดวงตาและระบบทางเดินหายใจ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ผิวหนังแห้งและลดทอนความแข็งแรงของเล็บอีกด้วย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คงต้องหลีกเลี่ยง น้ำยาล้างเล็บแล้ว เพราะกลัวสาร "ไทลูอิน"กับ"ไดบิวทิล" lol

      ลบ
    2. สำรวจสถานภาพนำหน้า หน่อยนะ

      ลบ
  11. พัชรภรณ์ โจเสฟีน (งาน blog ไม่คืบหน้านะ)
    นิภาพร ภาณุพงศ์ ดุจฤดี ชวัลรัตน์ กมลชนก
    ณิชชา นั่งใน office ทั้งวันคงไม่เป็นไร
    ธณิวัลย์ ของโปรด
    สุทธิลักษณ์ ทั้งทา ทั้งล้าง เลยเป็นพิษหมด

    ตอบลบ
  12. ผมขอข้ามเรื่องอุปโภค บริโภค นะครับ

    อันตรายจากเฟซบุ๊ค !!!
    URL : http://www.manager.co.th/daily/viewnews.aspx?NewsID=9560000056949

    ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีเฟซบุ๊คเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน บางคนยังไม่ทันลุกจากที่นอนก็เปิดดูเฟซบุ๊คอัพสเตตัส "ตื่นนอนแล้วค่ะ" "อรุณสวัสดิ์เพื่อนๆชาวโซเชียล" หรือดูว่ามีใครมา "Comment" มากด "Like" กันแล้ว
    ฉะนั้น อย่าปฏิเสธนะว่า FACEBOOK ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกคุณ..
    [ยกเว้นพวกที่ไม่มี FACEBOOK นะครับ..แต่วัยรุ่นสมัยนี้น่าจะมีกันทุกคน น้องชายผม อยู่ ม.1 ก็มีแล้ว]
    จริงๆก็มีหลายๆ Link ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ที่เลือก Link นี้เพราะีมี Infographic น่าสนใจที่สุดครับ

    ตอบลบ
  13. http://www.lifenewsonline.com/?ContentID=ContentID-091102105921635
    ภัยใกล้ตัวที่สำคัญที่เราใช้ในชีวิตประจำวันคือโทรศัพมือถือที่เราใช้อยุ่ทุกวัน

    หลายต่อหลายคน คงปฎิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งจำเป็น และถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของเราไปแล้ว เพราะด้วยความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์คุยกัน เครือข่ายอินเทอร์เนตผ่านมือถือ หรืออะไรอีกมากมาย รวมไว้ในมือถือเครื่องเดียว ทำให้โลกยุคปัจจุบันกลายเป็นโลกของการสื่อสารบนมือถือไปแล้วก็ว่าได้ แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ถึง มหันตภัยร้ายของโทรศัพท์มือถือที่ถ้าใช้ต่อเนื่องกันนานๆอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเนื้องอกในสมองได้
    ผลงานการวิจัยของศัลยแพทย์ชาวออสเตรเลีย ที่ออกมาเตือนว่า การใช้มือถือเป็นเวลานานกว่า10 ปีขึ้นไป จะเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกในสมองถึงสองเท่า ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้ามองตามหลักความจริงในปัจจุบันเด็กตัวเล็ก ๆ อายุสัก 12 – 13 ปี ก็มีมือถือติดตัวกันแล้ว และเมื่อเขาเข้าสู่วัย 20-30 ปี โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นเนื้องอกก็มีมากขึ้น เพราะเป็นการใช้แบบสั่งสมตั้งแต่ยังเล็ก

    ตอบลบ
  14. 4 เทคโนโลยี.....แฝงอันตราย

    URL : http://blog.eduzones.com/benkungzu/1398

    สมัยนี้เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของทุกคน เพราะมันสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆได้มากมาย แต่เราก็ควรใช้มันให้เหมาะสม เพราะเราอย่าลืมว่า สิ่งไหนที่ให้ที่เอื้อความสะดวกสบายให้กับเรามาก สิ่งนั้นก็ย่อมจะมีพิษภัยตามมาด้วยเช่นกัน

    ตอบลบ
  15. อันตรายจากอาหารแช่แข็ง
    URL : http://www.dek-d.com/board/view/1966322/
    ปัจจุบันอาหารแช่แข็งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยเพราะสะดวกหาซื้อกินง่าย แต่อาจจะทำให้มีสารพิษตกค้างในอาหารโดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว

    ตอบลบ
  16. อันตรายจากผลไม้อบแห้ง
    URL http://www.thairath.co.th/column/life/fromfood/90204
    ผลไม้บางชนิดหากินสดในบ้านเราไม่ได้ จึงต้องหาผลไม้แบบอบแห้งมาทานแทน แต่ผลไม้เหล่านี้มีสารโชเดียมไชคราเมตประปนอยู่ กินเข้าไปมากๆ อาจทำให้เกิดการสะสมสารพิษไว้ในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อร่างกายในอนาคตได้

    ตอบลบ
  17. อันตรายจากการดื่มน้ำแร่ทุกวัน
    http://www.thairath.co.th/content/edu/342657
    ในอาหารที่เรากินปกติในชีวิตประจำวัน ก็มีแร่ธาตุผสมอยู่แล้ว หากเราไม่ได้เจ็บป่วย หรือร่างกายขาดแร่ธาตุตัวใด ก็ไม่จะเป็นต้องดื่มน้ำแร่ หรือถ้าหากดื่มก็ดื่มได้แต่ไม่จำเป็นต้งดื่มทุกวัน เพราะกลัวว่าร่างกายจะขาดเเร่ธาตุ หรือต้องการแร่ธาตุสำหรับบำรุงร่างกาย เหมือนกับอาหารเสริมหรือวิตามิน ถ้าคนเรากินอาหารครบตามหลักโภชนาการ เราไม่จำเป็นต้องกินวิตามินหรืออาหารเสริมใดๆเลย

    ตอบลบ
  18. ภัยจากการไม่กินผัก
    http://www.perfectly-health.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538720308&Ntype=2
    ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปีละกว่า 50,000 ราย โดยมะเร็งลำไส้ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งปอดและเต้านม นอกจากนี้คนไทยยังเป็นโรคเบาหวานที่รู้ตัวแล้วถึงกว่า 3 ล้านราย ภาวะเสี่ยงที่กำลังคุกคามชีวิตคนไทยในขณะนี้ 85% เกิดจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ การรับประทานอาหารไม่สมดุล โดยรับประทานอาหารที่เป็นแป้ง ไขมัน น้ำตาล และเนื้อสัตว์มากเกินไป บริโภคผักน้อยลง

    ตอบลบ
  19. ณัฐพล ชนมน สุรัชดา อรณิช
    ไทสิริ ทราบแล้วทำไงดีกับมือถือ
    ชฎาพร เงินคงหมดก่อนละ
    วรัณญีญกาญน์ ส่งงาน blog ด่วน

    ตอบลบ
  20. http://www.vcharkarn.com/vcafe/40315
    เป็น ลิงค์ เกี่ยวกับ อันตรายจากหมอนและที่นอนค่ะ เราต้องใช้หมอนและที่นอนอยู่ทุกวันแต่เราไม่รู้เลยว่าในหมอนและที่นอนนั้นมีอันตรายมากขนาดไหน นั่น คือ เชื้อราอันตราย ที่มีชื่อว่า Aspergillus fermigatus ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก่อให้เกิดโรค และเกิดอาการแอสเพอร์โลเจอเนสิส (aspergillosis) ที่เป็นอาการการติดเชื้อและก่อให้เกิดความตายได้ในผู้ป่วยลิวคีเมีย (leukaemia) และผู้ทำการผ่ตัดเปลี่ยนกระดูกไขสันหลัง และรายังกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดในผู้ใหญ่อีกด้วยค่ะ โหดมั้ยล่ะค่ะ

    ตอบลบ
  21. อันตรายจากน้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำ
    http://www.goldenplace.co.th/article_11.php
    ผลกระทบต่อสุขภาพของน้ำมันทอดซ้ำ
    ทำให้เกิดการเจริญเติบโตลดลง ตับ และไตมีขนาดใหญ่ มีการสะสมไขมันในตับ การหลั่งน้ำย่อยทำลายสารพิษในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นไขมันที่ถูก oxidized ปริมาณสูงอาจทำให้ lipoprotein ชนิด LDL มีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้

    ตอบลบ
  22. http://board.postjung.com/665370.html
    อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ
    โทรศัพท์มือถือเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากโทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการส่งสัญญาณดังนั้นที่ผ่านมาจึงมีงานวิจัยเพื่อไขข้อข้องใจถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “คลื่นโทรศัพท์มือถือ” กับการเกิด “โรคมะเร็ง” อย่างมากมาย และมีการสรุปผลทั้งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น อยู่ที่ผู้บริโภคว่าจะเลือกรับฟังข้อสรุปแบบใด ทั้งนี้ จะขอสรุปเฉพาะในส่วนที่มีผลการศึกษาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็ง

    ตอบลบ
  23. http://www.oknation.net/blog/print.php?id=364576
    อันตรายจากยาคุมกำเนิด :)

    วัยรุ่นสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์ก่อยวัยอันควรและวิธีป้องกัน
    การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรคือ การคุมกำเนิด
    ยาคุมกำเนิดนั้นก้มีโทษหลายอย่างตามมาไม่ใช่ว่า
    เป้นแค่วิธีป้องกันการตั้งครรภ์แล้วก็ตาม สาเหตุเกิดจากในยาเม็ดคุมกำเนิด
    จะประกอบด้วยไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ซึ่งหน้าที่หลัก
    จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ในตัวมันทั้งสองเองก็มีผลต่อระบบอื่นๆในร่างกายด้วย
    ดังนั้นในทางที่ดีเราไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเลย
    เพราะผลที่ตามมาอาจจะร้ายแรงมากถึงแม้จะมีการคุมกำเนิดแล้วก้ตาม

    ตอบลบ
  24. บารากุ อันตรายกว่าที่คุณคิด
    http://www.dek-d.com/board/view/1943072

    ในสมัยนี้การสูบบุหรี่มีหลายแบบ หนึ่งในนั้นคือการสูบบารากุ
    ที่วัยรุ่นฝรั่งนิยมสูบกันในปัจจุบัน ผุ้สูบมักเข้าใจกันผิดๆ ว่า
    การสูบบารากุคือ " การสูบยาเส้นผ่านน้ำจะทำให้ปลอดภัยมากขึ้น "
    แต่จากการวิจัยออกมาแล้วนั้น มีอันตรายมากกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไป
    เพราะมีสารนิโคติน และสารทาร์จำนวนมากกว่า อีกทั้งการสูบผ่านน้ำ
    และการผสมกับผลไม้กลิ่นต่างๆ จะทำให้ความเข้มข้นของควันจางลง
    ทำให้ผู้สูบ สูบได้ลึกมากขึ้น และจำนวนมากขึ้น ซึ่งถ้าใช้เวลาสูบนาน 45 นาที
    จะได้รับสารทาร์เป็น 36 เท่า คาร์บอนมอนนอกไซด์เป็น 15 เท่า
    และนิโคตินเป็น 70เท่า เมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ 1 มวน
    ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก

    ตอบลบ